ข่าวดี!! ครม. อนุมัติลงทุนเครื่องจักรหักรายจ่าย 2.5 เท่า
เพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล* หักรายจ่ายเครื่องจักรได้ 2.5 เท่า
เงื่อนไข
1. ต้องจ่ายไปในวันที่ 1 ม.ค. 63 – 31 ธ.ค.63 และพร้อมใช้งานภายในวันที่ 31 ธ.ค. 63
2. ต้องเป็นการลงทุนใหม่ ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน และอยู่ในประเทศ
3. ต้องไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอื่น ๆ
4. ต้องแจ้งโครงการลงทุนต่อกรมสรรพากร
*ไม่รวมถึงกิจการให้เช่าแบบลีสซิ่ง
สรรพากรเตรียมออกกฎหมายสนองมาตรการการเงินการคลังเพื่อสนับสนุนการลงทุน ในประเทศปี 2563 หลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีฯ ที่กระทรวงการคลังเสนอ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 ผู้ประกอบการนำรายจ่ายลงทุนในเครื่องจักรมาหักภาษีได้มากถึง 2.5 เท่า
นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เผยถึงสาระสำคัญของมาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศว่า กำหนดให้ บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถหักรายจ่ายจากการลงทุนในเครื่องจักร ในการคำนวณกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้เป็นจำนวน 2.5 เท่า โดยแยกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 จำนวน 1.5 เท่า (ของรายจ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง) เป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และส่วนที่ 2 จำนวน 1 เท่า เป็นการ หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา ทั้งนี้ไม่รวมถึงกรณีที่เป็นบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการให้เช่า แบบลีสซิ่ง และลงทุนในเครื่องจักร เพื่อให้เช่าเครื่องจักรนั้นแบบลีสซิ่ง) โดยผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิประโยชน์นี้ ในกรณีที่ได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรภายในวันที่ 1 มกราคม 2563 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 เท่านั้น และ เครื่องจักรมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขประกอบดังต่อไปนี้
1. ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน
๒. หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาได้และอยู่ในสภาพพร้อมใช้การได้ภายใน 31 ธันวาคม 2563
๓. อยู่ในราชอาณาจักร
๔. ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในประมวลรัษฎากร ฉบับอื่น ๆ
จากการออกมาตรการดังกล่าว คาดว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพิ่ม ในภาคเอกชนกว่า 110,000 ล้านบาท อีกทั้งยังช่วยให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ตามไปด้วย