Category Archives: Uncategorized

  • 0

รู้หรือไม่ SMEs เป็นนิติบุคคล เสียภาษีถูกกว่า 15 เปอร์เซ็นต์


Tags : 

หากเปรียบเทียบกันระหว่างอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากับอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล จะเห็นว่าการทำธุรกิจในรูปแบบของนิติบุคคลประหยัดภาษีมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะนิติบุคคล เสียภาษีสูงสุด 20% ขณะที่บุคคลธรรมดา เสียภาษีสูงสุด 35% เท่ากับนิติบุคคลเสียภาษีถูกกว่าถึง 15%

สำหรับนิติบุคคล (ที่มีเงื่อนไข) เป็น SMEs หรือกิจการขนาดเล็ก ✓ ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท ✓ รายรับไม่เกิน 30 ล้านบาท

SMEs จะได้รับ “โอกาส” และ “แต้มต่อ” มากกว่า !!! เช่น ✓ ยกเว้นภาษี (กำไรสุทธิไม่เกิน 3 แสนบาท) ✓ หักค่าใช้จ่ายของกิจการเป็นพิเศษได้ 2 เท่า (เช่น ค่าจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ค่าทำบัญชี ค่าสอบบัญชี)

Credit : https://www.smebank.co.th


  • 0

ปัจจัยสำคัญ เมื่อต้องเลือกสำนักงานบัญชี สำหรับเจ้าของธุรกิจใหม่


Tags : 

ในแต่ละปี มีเจ้าของธุรกิจ จดทะเบียนนิติบุคคล บริษัท ห้างหุ้นส่วน มากกว่า 40,000 – 70,000 แห่งทั่วประเทศ แต่ละนิติบุคคล บริษัท ห้างหุ้นส่วน จำเป็นต้องมีผู้ทำบัญชี และผู้สอบบัญชีอนุญาต เพื่อทำงบการเงินประจำปี ทางเลือกที่ดีของเจ้าของธุรกิจใหม่ คือ สำนักงานบัญชี คำถามที่ตามมา คือ อะไรคือปัจจัยที่สำคัญ เมื่อต้อง เลือกสำนักงานบัญชี ครั้งแรก  พนักงานบัญชีจบใหม่ 1 คนมีค่าใช้จ่าย และถือเป็นต้นทุนคงที่ทุกเดือนอย่างน้อย 9,000 – 15,000 บาท ขึ้นอยู่กับวุฒิการศึกษา แต่ไม่รวมประสบการณ์ ถ้าต้องการจ้างพนักงานบัญชีที่สามารถทำบัญชีปิดงบได้ต้นทุนอาจขยับถึง 35,000 – 50,000 ต่อคนต่อเดือน ไม่รวมผู้สอบบัญชีอนุญาต ที่ต้องหาเอง และมีต้นทุนสูง สำนักงานบัญชี เป็น ตัวเลือกที่เหมาะกับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก ที่มีเงินทุนน้อย หรือต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ปัญหาของเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก หรือSMEsส่วนใหญ่ คือ สำนักงานบัญชีที่ดีเป็นอย่างไร และอะไรคือปัจจัยในการเลือกสำนักงานบัญชี

ความน่าเชื่อถือ สำนักงานบัญชี เปรียบเสมือนเพื่อนทางธุรกิจ หรือพาร์ทเนอร์ เพราะรายได้ ค่าใช้จ่าย ค่าภาษี และงบการเงินประจำปี ถูกกำหนดโดยสำนักงานบัญชี ดังนั่นความน่าเชื่อถือของสำนักงานบัญชีจึงเป็นเรื่องสำคัญ

วิธีที่ดีที่สุด เพื่อค้นหาความน่าเชื่อถือ และประสบการณ์ของสำนักงานบัญชี คือ การดูข้อมูลสำนักงานบัญชี รวมทั้งประวัติของเจ้าของสำนักงานบัญชีในแต่ละแห่งว่าจบการศึกษาด้านใด มีประสบการณ์ในการทำงานด้านบัญชี และภาษีกี่ปี มีลูกค้ากี่หลาย และลูกค้าทำกิจการอะไรบ้าง คุณต้องสอบถามข้อมูลในแต่ละอย่างให้ครบถ้วน ยิ่งคุณใส่ใจ เท่ากับว่าธุรกิจของคุณมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ และยั่งยืนสูง

 ค่าจ้าง

หลังจากเปิดบริษัท เจ้าของธุรกิจ อาจได้รับจดหมายจากสำนักงานบัญชีหลายแห่ง บางแห่งแสดงค่าบริการตั้งแต่ 500 บาท ราคาถึงแม้เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ที่เงินลงทุนไม่มาก แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาก็คือ รับทำบัญชีราคาถูก หมายความว่า สำนักงานบัญชีนี้ ต้องรับลูกค้าจำนวนเท่าไร เพื่อทำให้ธุรกิจอยู่รอดมาคำนวนกันครับ

สำหรับสำนักงาน ที่รับบัญชีราคาถูก ต้องให้พนักงานทำงานอย่างน้อย  30 บริษัทต่อพนักงานหนึ่งคน ที่มีเงินเดือน 15,000 บาท ยังไม่รวมสวัสดิการอย่างอื่น ดังนั่นถ้าคุณต้องการต้องการงานอื่นๆ ที่นอกเหนือจาก ยื่นภาษีประจำเดือน และส่งงบการเงินประจำปี คุณคาดหวังได้ว่า สำนักงานบัญชีที่ทำบัญชีราคาถูก จะไม่สามารถทำรายงานทางบัญชี และรายงานกำไรขาดทุนในแต่ละเดือนได้อย่างแน่นอน

ขั้นตอนการทำงาน

ก่อนที่จะเริ่มตกลงจ้างสำนักงานบัญชี คำถามหนึ่งที่ต้องมี คือ “ขั้นตอนการทำงานของสำนักงานบัญชีในแต่ละเดือนมีอะไรบ้าง ช่วยอธิบายให้ฟังสั้นๆ” สำนักงานบัญชีที่ดี ต้องมีขั้นตอนที่แน่นอน และเป็นระบบ เช่น การรับ-ส่งเอกสารในแต่ละเดือน การเก็บเอกสาร การยื่นภาษี การชำระภาษี การชำระประกันสังคม รวมทั้งการจัดทำรายงานบัญชีในแต่ละเดือน ตัวแทนสำนักงานบัญชีต้องสามารถอธิบายขั้นตอนการทำงานได้อย่างชัดเจน และครบถ้วน

ปัจจุบันหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้ความสำคัญกับสำนักงานบัญชีอย่างมาก จึงทำให้เกิดโครงการ “สำนักงานบัญชีคุณภาพ” ขึ้นมา เพื่อเป็นตัวเลือกหนึ่งให้กับเจ้าของธุรกิจ และป้องกันปัญหาจากสำนักงานบัญชีที่รับทำบัญชีไม่ครบถ้วน และไม่ถูกต้อง

ให้คำปรึกษา

สำนักงานทำบัญชีสมัยใหม่ หรือยุค4.0 ต้องเป็นเหมือนพาร์ท หรือเพื่อทางธุรกิจ คือ มีความรู้สึกร่วมกับเจ้าของธุรกิจ ยินดีเมื่อเจ้าของธุรกิจมีกำไรมากขึ้น และเมื่อเห็นว่ามีสิ่งที่ไม่ดี เกิดขึ้นกับธุรกิจ ต้องสามารถเป็นที่ปรึกษาให้ได้ ในแต่ละเรื่อง เช่น วางระบบบัญชีภายใน ประหยัดภาษี สามารถอธิบายค่าใช้จ่ายที่สรรพากรยอมรับ และไม่ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายต้องห้ามได้ วิเคราะห์งบการเงินได้ อธิบายให้เจ้าของธุรกิจเข้าใจวิธีอ่าน และเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ สามารถอธิบายจุดอ่อน ของหนี้สิน และค่าใช้จ่ายที่มีผลต่อฐานะทางการเงินของธุรกิจได้

ท้ายสุด ผมอยากให้ข้อคิดสำหรับเจ้าของธุรกิจ เมื่อต้องทำงานรวมกับสำนักงานบัญชี ก็คือ ความครบถ้วนของเอกสาร ความถูกต้องของข้อมูลทางบัญชี และสามารถใช้รายงานทางบัญชีได้อย่างทันการณ์ เจ้าของธุรกิจต้องใส่ใจบัญชี เพราะ บัญชี คือ “หัวใจของธุรกิจ”

Credit : www.myaccount-cloud.com

ERP product

 


  • 2

“กรมสรรพากร” มีหน้าที่อย่างไร


Tags : 

กรมสรรพากร (The Revenue Department) เป็นส่วนราชการระดับกรม สังกัดกระทรวงการคลัง ที่เริ่มก่อตั้งในสมัย รัชกาลที่ 5 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2433

   กรมสรรพากร มีหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีจากฐานรายได้และฐานการบริโภคภายในประเทศ ตามประมวลรัษฎากร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นรายได้ให้รัฐบาล เพื่อนำมาใช้พัฒนาประเทศได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีมูลค่าเพิ่ม อากรแสตมป์ จากหน้าที่ดังกล่าวเมื่อมีเหตุจลาจล กรมสรรพกรจึงมักถูกวางเพลิงเสมอ อาทิเหตุการณ์ 14 ตุลา พฤษภาทมิฬ จนเป็นหน่วยงานของรัฐที่ถูกวางเพลิงมากที่สุดหน่วยงานหนึ่ง

นอกจากนั้นยังพิจารณาปรับปรุงตัวบทกฎหมาย และระบบการบริหารจัดเก็บภาษีเพื่อส่งเสริมการออม การลงทุนและการแข่งขันในการผลิตและการส่งออกกับนานาประเทศ ตลอดจนสร้างความเป็นธรรมในการกระจายรายได้ และเสริมสร้างความสมัครใจในการเสียภาษี และยังทำความตกลงระหว่างประเทศเพื่อขจัดการเก็บภาษีซ้ำซ้อนระหว่างกัน เพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

Credit : th.wikipedia


  • 2

ถ้ายื่นภาษีไม่ทัน…จะเกิดอะไรขึ้น (ภพ.30)


Tags : 

ถ้ายื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภพ.30) เกินกำหนดเวลา

1. ค่าปรับอาญา (จะต้องชำระเป็นเงินสดเท่านั้น)

  • ยื่นแบบล่าช้าไม่เกิน 7 วัน ค่าปรับ 300 บาท
  • ยื่นแบบล่าช้าเกิน 7 วัน ค่าปรับ 500 บาท

2. เงินเพิ่ม

  • เสียเงินเพิ่มอัตรา 1.5% ต่อเดือน (เศษของเดือนคิดเป็น 1 เดือน) ไม่รวมเบี้ยปรับ
  • โดยเงินเพิ่มที่เสียต้องไม่เกินจำนวนภาษี
  • หากไม่มียอดภาษีต้องชำระ ก็ไม่ต้องชำระเงินเพิ่ม

3. ค่าเบี้ยปรับ

  • กรณี ยื่นแบบภาษีเพิ่มเติม ค่าเบี้ยปรับคิดเป็น 1 เท่าของเปอร์เซ็นเบี้ยปรับ (หากลืมยื่นภาษีซื้อ ไม่ต้องขอยื่นเพิ่มเติมก็ได้เช่นกัน เพราะสามารถนำมาขอยื่นได้ในเดือนถัดไป ไม่เกิน 6 เดือนของวันที่ตามใบกำกับภาษี)
  • กรณี ไม่ได้ยื่นแบบภาษี ค่าเบี้ยปรับคิดเป็น 2 เท่าของเปอร์เซ็นต์เบี้ยปรับ
  • ถ้าไม่มีภาษีต้องชำระก็ไม่เสียค่าเบี้ยปรับ แต่ยังคงต้องเสียค่าปรับอาญากรณีไม่ยื่นแบบ 500 บาท
  • ไม่ออกใบกำกับภาษี และส่งมอบให้กับผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ ค่าเบี้ยปรับ 2 เท่า
  • ออกใบกำกับภาษี โดยไม่มีสิทธิที่จะออก ค่าเบี้ยปรับ 2 เท่า
  • นำใบกำกับภาษีปลอมมาใช้ ค่าเบี้ยปรับ 2 เท่า
  • ไม่เก็บสำเนาใบกำกับภาษีขาย ค่าเบี้ยปรับ 2% ของภาษีตามใบกำกับ
  • ไม่เก็บใบกำกับภาษีซื้อที่ใช้เครดิตภาษี ค่าเบี้ยปรับ 2% ของภาษีที่นำมาเครดิต
  • ไม่ทำรายงานตามที่กฎหมายกำหนด หรือมีสินค้าขาดจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบ ค่าเบี้ยปรับ 2 เท่า

Credit : https://www.ztrus.com


  • 0

ห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัด แตกต่างกันอย่างไร


ห้างหุ้นส่วนจำกัด  และ  บริษัทมหาชนจำกัด  แตกต่างกันอย่างไร

จำนวนผู้เริ่มจดจัดตั้ง 

บจก. : 3 คนขึ้นไป

หจก. : อย่างน้อย 2 คนขึ้นไป (จำกัดและไม่จำกัด อย่างน้อยจำพวก ละ 1 คน)

เงื่อนไขความรับผิดชอบ  

บจก. : ทุกคนจำกัดความรับผิดชอบ

หจก. :  มีหุ้นส่วน 2 จำพวก คือ จำกัดความรับผิดชอบ และไม่จำกัดความรับผิดชอบ

ความรับผิดชอบในหนี้สิน 

บจก. : รับผิดชอบเฉพาะเงินลงทุนที่ยังไม่ได้ชำระ

หจก. : หุ้นส่วนที่จำกัดความรับผิดชอบ รับผิดชอบตามเงินลงทุน ส่วนหุ้นส่วนที่ไม่จำกัดความรับผิดชอบ รับผิดชอบในหนี้สินทั้งหมด (รวมถึงทรัพย์สินส่วนตัวด้วย)

กรบริหารงาน :

บจก. : บริหารงานโดยคณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้ง

หจก. : การตัดสินใจต้องมีการเห็นขอบจากหุ้นส่วน

ผู้เซ็นต์รับรองงบการเงินประจำปี 

บจก. : CPA เป็นผู้เซ็นต์รับรองงบ

หจก. : TA หรือ CPA เป็นผู้เซ็นต์รับรองงบ

การรับรองงบการเงินประจำปี

บจก. : ต้องมีการประกาศเชิญประชุมผู้ถือหุ้นในหนังสือพิมพ์ปีละครั้ง

หจก. : ไม่ต้องมีการประกาศเชิญด้วยการลงโฆษณา

 ความแตกต่างของคือ ห้างหุ้นส่วนสามัญ และห้างหุ้นส่วนจำกัด

1. ห้างหุ้นส่วนสามัญ  คือ ห้างหุ้นส่วนประเภทซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันในหนี้สินของห้างทั้งหมดโดยไม่จำกัดจำนวน เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องให้ผู้เป็นหุ้นส่วนใช้หนี้จากสินทรัพย์ส่วนตัวได้ และผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนมีสิทธิที่จะจัดการกับห้างหุ้นส่วนได้  ห้างหุ้นส่วนสามัญจำแนกเป็น 2 ประเภทคือ ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน  และ  ห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียน

ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน เป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากผู้เป็นหุ้นส่วน ใช้คำคำนำหน้าชื่อว่า “ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล” ห้างหุ้นส่วนนี้มีหุ้นส่วนประเภทเดียวคือ หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด โดยหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้สินทั้งปวงของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จำกัดจำนวน และผู้เป็นหุ้นส่วนจะตกลงให้มีผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียวหรือหลายคนเป็นผู้จัดการขก็ได้

ห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียน เป็นบุคคลธรรมดา ใช้คำคำนำหน้าชื่อว่า “ห้างหุ้นส่วนสามัญ” ถ้าไม่ได้ระบุลงในสัญญาห้าง ตามกฎหมายให้ถือว่าผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนมีสิทธิจัดการได้

ลักษณะสำคัญของห้างหุ้นส่วนสามัญ

• จดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนก็ได้

• มีผู้เป็นหุ้นส่วนเพียงประเภทเดียว คือ ประเภทไม่จำกัดความรับผิดชอบในหนี้สิน

• ทุนที่นำมาเป็นเงินสด สินทรัพย์ต่าง ๆ และแรงงานได้

• ผู้เป็นหุ้นส่วนมีสิทธิเข้าจัดการกับห้างหุ้นส่วนได้

• เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องให้ผู้เป็นหุ้นส่วนใช้หนี้จากสินทรัพย์ส่วนตัวได้

• เมื่อหุ้นส่วนผู้ใดถึงแก่ความตายหรือลาออกจากห้างหุ้นส่วน หรือล้มละลาย สัญญาเข้าเป็นหุ้นส่วนเป็นอันสิ้นสุดต้องเลิกกิจการ

2. ห้างหุ้นส่วนจำกัด  คือ ห้างหุ้นส่วนประเภทที่มีผู้เป็นหุ้นส่วน 2 จำพวก ได้แก่ หุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด และ หุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด

หุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด ได้แก่ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียวหรือหลายคน ต้องรับผิดในบรรดาหนี้สินทั้งปวงโดยไม่จำกัดจำนวน และหุ้นส่วนประเภทนี้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างได้

หุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด ได้แก่ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียวหรือหลายคน รับผิดจำกัดเพียงจำนวนเงินที่ตนรับว่าจะลงทุนในห้างหุ้นส่วนเท่านั้นและเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างไม่ได้

ลักษณะสำคัญของห้างหุ้นส่วนจำกัด

• ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล

• มีผู้เป็นหุ้นส่วน 2 ประเภท คือประเภทที่ไม่จำกัดความรับผิดชอบ และประเภทที่จำกัดความรับผิดชอบ

• ผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดชอบไม่มีสิทธิเข้าจัดการกับห้างหุ้นส่วน และไม่สามารถลงทุนเป็นแรงงานได้ รวมถึงเมื่อตาย ลาออก ล้มละลาย ไม่ต้องเลิกกิจการ

• เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้ใช้หนี้จากสินทรัพย์ส่วนตัวของผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดชอบ

 

Credit : www.daa.co.th


  • 0

สิทธิในการอุทธรณ์ภาษีอากร


Tags : 

ผู้ถูกประเมินภาษีอากรสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อใคร?

1.ในเขตกรุงเทพมหานคร ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ซึ่งประกอบด้วยอธิบดีกรมสรรพากรหรือผู้แทน ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนกรมการปกครอง

2.ในต่างจังหวัด ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ซึ่งประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้แทน สรรพากรภาคหรือผู้แทน และอัยการจังหวัดหรือผู้แทน

 

ผลการพิจารณาอุทธรณ์เป็นอย่างไร?

เมื่อได้มากวินิฉัยข้อโต้แย้งตามคำอุทธรณ์นั้น เมื่อแล้วเสร็จจะส่งผลเป็นคำวินิจฉัยอุทธรณ์ (ภ.ส.7) ให้แก้ผู้ยื่นอุทธรณ์ ดังนี้

1. ให้ ปลดภาษี เนื่องจากพิจารณาเห็นว่า การประเมินไม่ถูกต้อง ในกรณีนี้ผู้อุทธรณ์ไม่ต้องเสียภาษีตามการประเมิน

2. ให้ ลดภาษี เนื่องจากพิจารณาเห็นว่า การประเมินบางส่วนถูกต้องและบางส่วนไม่ถูกต้อง จึงปรับปรุงจำนวนภาษีให้คงเหลือเท่าที่ผู้อุทธรณ์ต้องชำระภาษีเพิ่มเติมให้ครบถ้วน

3. ให้ ยกอุทธรณ์ เนื่องจากพิจารณาเห็นว่า การประเมินถูกต้องแล้ว ซึ่งผู้อุทธรณ์ต้องเสียภาษีตามการประเมิน

4. ให้ เพิ่มภาษี เนื่องจากได้พิจารณาประเด็นการประเมินและข้อโต้แย้งของผู้อุทธรณ์ ปรากฎว่า การประเมินถูกต้องแต่เจ้าพนักงานประเมินคำนวณภาษีคลาดเคลื่อนต่ำไป คณะกรรมการฯ อาจปรับการคำนวณภาษีและมีคำวินิจฉัยอุทธรณ์ให้ผู้อุทธรณ์เสียภาษีเพิ่มขึ้นได้

 

หากผู้อุทธรณ์ยังไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์อีก ผู้อุทธรณ์ยังมิสิทธิ์ยื่นคำฟ้องต่อศาลภาษีอากร ภายใน 30วัน นับตั้งแต่วันได้รับแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ได้อีกด้วย

สรุปได้ว่า เรื่องการอุทธรณ์ภาษีอากรในกรณีหากเกิดปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฏหมายขัดแย้งพิพาทกันระหว่างผู้เสียภาษีอากรและผู้จัดเก็บภาษีอากร หากผู้เสียภาษีไม่เห็นด้วยกับการประเมินของเจ้าพนักงานประเมิน ผู้เสียภาษีก็มีสิทธิที่จะคัดค้านการประเมินนั้นได้โดยการยื่นอุทธรณ์คัดค้านต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ภายในเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันได้รับแจ้งการประเมิน และเมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ชี้ขาดอุทธรณ์แจ้งไปยังผู้อุทธรณ์แล้ว หากผู้อุทธรณ์ยังไม่พอใจในคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ก็สามารถอุทธรณ์คำวินิจฉัยนั้นต่อไปได้อีกโดยการฟ้องต่อศาลภาษีอากรภายในกำหนดเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์

 

 

Credit : www.rd.go.th


  • 0

ค่าใช้จ่าย R&D หักทางภาษีได้ 3 เท่า


Tags : 

กำหนดให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการภาคเอกชนเพิ่มขึ้นโดยสามารถลงเป็นรายจ่ายได้เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 3 เท่าของรายจ่ายจริง โดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้

1. ผู้ประกอบการที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นี้ ต้องเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร มาตรา 39 และจะต้องไม่นำรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมนี้ ไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

2. ผู้ประกอบการจะได้ยกเว้นภาษี เฉพาะเงินได้ส่วนที่จ่ายไปเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้แก่หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่อธิบดีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่า จึงเป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่ายที่ได้จ่ายไปจริง[4]

3. ผู้ประกอบการจะได้ยกเว้นภาษีเพิ่มอีก 1 เท่าจากข้อ 2 สำหรับเงินได้ส่วนที่จ่ายไปเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งได้จ่ายไปในระหว่างวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 แต่ทั้งนี้ เมื่อรวมกับเงินในข้อ 2. แล้วต้องไม่เกินร้อยละของรายได้ที่ต้องนำมาคำนวณกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายใดในรอบระยะเวลาบัญชี

Credit : https://www.dlo.co.th